นอกจากนี้ “ข้าวไรซ์เบอร์รี่” ยังได้มีการจดทะบียนคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่จะนำไปขยายพันธุ์ต่อในเชิงการค้า จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นหากไม่ขออนุญาตก็จะเป็นการกระทำความผิดและได้รับโทษไปตามกฎหมาย
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อข้าวไรซ์เบอร์รี่กันมานาน แต่ไม่เคยเห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม เมล็ดเรียวยาว มีผิวที่มันวาว แต่ถ้าหากยังเป็นข้าวกล้องก็จะมีกลิ่นหอมพิเศษ และยังมีรสชาติหวานอ่อนๆ กลมกล่อม เนื้อสัมผัสก็ชวนรับประทาน ข้าวไรซ์เบอร์รี่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี เพาะปลูกเพียง 130 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ข้าวไรซ์เบอร์รี่สามารถต้านทานโรคไหม้ที่เกิดกับข้าวได้ แต่ต้านทานโรคหนาวที่เกิดกับข้าวไม่ได้ ดังนั้นทางที่ดีสำหรับผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่คือ ควรเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ทุกครั้งของรอบการปลูก
1. ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวสายพันธุ์หนึ่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงร่างกาย และเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว สามารถลดการอักเสบที่ผิวหนังได้ อีกทั้งช่วยลดริ้วรอยและชะลอความแก่ได้ ดังนั้นผู้ที่ไม่อยากแก่หรือต้องการที่จะบำรุงสุขภาพผิว ควรเลือกรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่
2. ข้าวไรซ์เบอร์รี่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง แน่นอนว่าโรคต่าง ๆ ในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายโรคเหลือเกิน ใครก็ไม่อยากที่จะป่วยเป็นโรคร้ายแรง ดังนั้นการรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่อาจเป็นทางออกของปัญหานี้ได้ เพราะการรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และโรคสมองเสื่อมได้
3. สรรพคุณข้าวไรซ์เบอร์รีช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต นอกจากจะเป็นอาหารที่รับประทานเพื่อบำรุงสุขภาพแล้ว ในกลุ่มผู้สูงวัยที่มักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต การรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ระบบอื่นๆ ก็ทำงานได้ดี ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วย
4. ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่ช่วยบำรุงสายตา การรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่จะช่วยให้สายตาของเราเป็นปกติ ไม่พร่ามัว หรือเกิดอาการตาอ่อนล้าได้ง่ายๆ
5. ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยบำรุงระบบประสาทต่างๆ ระบบประสาทถือว่าเป็นระบบที่มีความสำคัญมากที่สุดของร่างกาย เพราะถ้าหากระบบประสาททำงานผิดปกติ ก็อาจส่งผลต่อระบบอื่นๆ ในร่างกายให้ทำงานผิดปกติไปด้วย ดังนั้นเราจึงควรรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมองของเราให้มีความแข็งแรง และไม่ล้าง่าย การเลือกรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยคุณได้
6. ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสรรพคุณดีต่อสตรีมีครรภ์ สตรีมีครรภ์นับว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะต้องดูแลร่างกายของเราเองแล้วนั้น เรายังต้องดูแลชีวิตน้อยๆ อีกหนึ่งชีวิตให้แข็งแรงไปพร้อมๆ กันด้วย แต่สิ่งที่คนเป็นแม่ห่วงมากที่สุดก็คือสุภาพของลูกน้อยในครรภ์ เพราะหากสุขภาพในครรภ์ไม่ดีอาจส่งผลมาถึงช่วงคลอดออกมาแล้วก็ได้ ดังนั้นคุณแม่คนไหนที่ยังมีความกังวลในส่วนนี้ก็หันมารับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่กัน เพราะการรับประทานข้าวชนิดนี้จะช่วยให้เด็กในครรภ์มีสุขภาพที่แข็งแรง และยังช่วยป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่อีกด้วย
สำหรับตัวของคุณแม่เองนั้น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นมีความอันตรายมากต่อทั้งแม่และเด็ก และที่สำคัญข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีธาตุเหล็กสูงเหมาะกับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะต้องการแร่ธาตุชนิดนี้มากกว่าคนปกติ
7. สรรพคุณข้าวไรซ์เบอร์รี่ช่วยลดน้ำหนักและน้ำตาล คุณประโยชน์ในข้อนี้ถือว่ามีผลดีต่อกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วนอย่างยิ่ง เพราะสามารถควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นในผู้ป่วยโรคอ้วน และสามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้เป็นปกติในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน นอกจากนี้สาวๆ ที่อยากจะดูแลรูปร่างก็ควรเลือกรับประทานข้าวชนิดนี้
8. ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสรรพคุณรักษาโรคโลหิตจาง เนื่องจากเราทราบแล้วว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีธาตุเหล็ก ดังนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หากรับประทานข้าวชนิดนี้เป็นประจำก็จะช่วยบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น
9. ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รีช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ข้าวไรซ์เบอร์รี่จัดเป็นข้าวชนิดหนึ่งที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลแล้วนั้นยังช่วยทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้องไม่ผูกอีกต่อไป
"ข้าวไรซ์เบอร์รี่" แม้ว่าจะเป็นข้าวที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ แต่ประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่ต่อร่างกายไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าข้าวชนิดอื่นๆ ดังนั้นใครก็ตามที่สนใจดูแลรักษาสุขภาพ ก็ลองหันมาลิ้มชิมรสข้าวไรซ์เบอร์รี่สีม่วงเข้มกันดูบ้าง เผื่อว่าคุณอาจจะติดใจสรรพคุณดีๆ ของข้าวไรซ์เบอร์รี่ จนไม่อยากรับประทานข้าวชนิดอื่นก็เป็นได้